About

Labels

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ดวงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ


 ดวงของนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ 
"แบเบอร์"

ซินแสเทียนเต็ก  ไขความลับของฟ้าดินตามหลักโป๊ยยี่ซี้เถียว
บุคคลที่มีแนวโน้มว่ามีโอกาสที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 มากกว่าคนอื่น
ที่ผ่านมาได้มีการนำเสนอการทำนายดวงชะตาบ้านเมืองจากโหรหลายสำนักและหนึ่งในนั้นก็มีอาจารย์ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์จีน หรือโป๊ยหยี่ซี้เถียว  แห่งสำนักเทียนเต็ก  คือเทียนเต็กซินแส  ผู้ที่ไขความลับฟ้าดินด้วยโหราศาสตร์ชั้นสูง  ซึ่งการทำนายในครั้งนั้นถือว่ามีความแม่นยำมาก  ดังนั้นในฉบับนี้  “โหรามหาเวทย์”จึงถือโอกาสนำเสนอคำทำนายดวงชะตาบ้านเมือง มาให้เทียนเต็กซินแส  วิเคาะห์ว่าใครจะมีโอกาสมากกว่าที่จะได้เป็นนายกฯคนต่อไป  ซินแสเทียนเต็กได้ทำนายดวง  ของนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ   มีโอกาสที่จะไปได้ถึงดวงดาวคนหนึ่งเหมือนกัน
นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ   เกิดวันที่ 3  สิงหาคม 2507  เวลา จื้อ
     ดวงของนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  เป็นดวงมหัศจรรย์คือถ้าเป็นดวงธรรมดามีดิถีประจำตัวเป็นกะ (ธาตุไม้) อ่อนแอ  มีธาตุน้ำและธาตุทองเป็นธาตุที่ส่งเสริม  และมีธาตุไฟกับธาตุดินเป็นธาตุที่ให้โทษ
และเป็นดวงพิเศษด้วยคือราศีล่างเป็นซาฮะหรือซาหวยที่ให้คุณกับดิถี  และราศีบนมีธาตุที่ให้คุณอย่างน้อยอีก 1 ตัวถือว่าดิถีอ่อนแอ  มีธาตุน้ำและธาตุทองเป็นธาตุที่ส่งเสริม  และมีธาตุไฟกับธาตุดินเป็นธาตุที่ให้โทษเหมือนกับดวงธรรมดา
ดวงนี้ดิถีนั่งบนซิม (วอก) เป็นดาวชิกสัวะ  หมายถึงมีอำนาจและมีอำนาจมากเพราะซิมได้ฮะเป็นซาฮะกับ จื้อ (ชวด) และซิ้ง (มะโรง) เป็น (ซิม,จื้อ,ซิ้ง) ชวด,มะโรง,วอก รวมกันเป็นธาตุน้ำใหญ่ให้คุณมากหมายถึงมีอำนาจมาก  มีชื่อเสียงไกล  หมายถึงต่างประเทศให้คุณ  หมายถึงการทำกิจกรรมที่ทำเป็นทีมจะให้คุณ  ถ้าทำกิจกรรมส่วนตัวจะให้โทษเพราะที่ฐานเดือน (การงาน) เป็น บี่ (มะแม) เป็นธาตุดินให้โทษเป็นดาวตี่ไช้หมายถึงอาชีพธุรกิจไม่มั่นคงถ้าทำเป็นกากรส่วนตัว  แต่ที่หลักเดือนราศีบนเป็น ซิง (ธาตุทอง) ให้คุณเป็นดาวเจี้ยกัว  หมายถึงผู้ถืออำนาจ  นักปกครอง  ข้าราชการ  นักการเมือง  นักกฏหมาย  นักการเมือง  นักบริหาร  หัวหน้า  ผู้จัดการฝ่ายบุคคล  สรุปเกี่ยวกับอาชีพการงานดวงนี้ถ้าทำการค้าจะไม่ก้าวหน้าหรือไม่มั่นคง  แต่ถ้าทำอาชีพทางกฎหมายและการเมืองจะประสพความสำเร็จสมหวัง  และจะประสพความสำเร็จสมหวังในช่วงที่วัยจรเดินซิง (ธาตุทอง) ให้คุณ  เป็นอิก (ธาตุไม้) ให้คุณ หรือเดินเปี้ย (ธาตุไฟ)ให้โทษแต่ที่ฐานวัยจรต้องเป็นธาตุน้ำหรือธาตุทองเท่านั้น  เพราะเปี้ย (ธาตุไฟ) จะไปฮะกับ ซิง (ธาตุทอง) ให้คุณที่ราศีบนของหลักเดือนเกิด  โดยฮะแล้วเป็นธาตุน้ำให้คุณ  จึงต้องมีฐานวัยจรส่งเสริมจึงจะสำเร็จได้  ก็พอดีดวงนี้วัยจรช่วงอายุ 41 – 50 เดินเปี้ย (ธาตุไฟ) ให้โทษพอดีและที่ฐานวัยจรก็เป็น จื้อ (ชวด) ธาตุน้ำส่งเสริมให้ฮะติดพอดี  และที่สำคัญราศีล่างของวัยจรเมื่อเป็นจื้อ (ชวด) ธาตุน้ำให้คุณยังได้ไปฮะกับ ซิม (วอก) ธาตุทอง ฮะกับซิ้ง (มะโรง) ธาตุดิน  โดยฮะรวมกันเป็นซาฮะ ซิม,จื้อ,ซิ้ง (ชวด,มะโรง,วอก)รวมเป็นธาตุน้ำใหญ่ให้คุณอีก
ดวงของนายอภิสิทธิ์ราศีล่างต้องเป็นจื้อ (ชวด) เป็นซิม (วอก) หรือเป็นซิ้ง (มะโรง)  ในเมื่อดวงนี้วัยจรราศีบนเป็นเปี้ย และราศีล่างเป็น จื้อ (ชวด) เป็นดาวเจี่ยอิ่ง หมายถึงผู้นำ ผู้บริหาร แสดงว่าดวงของนายอภสิทธิ์  เวชชาชีวะ  ช่วง 10 ปีนี้เป็นช่วงที่ดีที่สุด
     สรุปว่านายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวาในช่วงสิบปีนี้ถือว่ารุ่งสุดฯ  จะประสพความสำเร็จสมหวังมีอำนาจทางการเมืองจากการทำงานเป็นทีม  แต่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีฯคนที่ 25 ของไทยได้ หรือไม่นั้นกาลเวลาจะเปลี่ยนเครืองพิสูจน์  
เล่มหน้าจะนำคำทำนายบุคคลคนที่มีโอกาสจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีมากกว่าบุคคลอื่นมาวิจารย์นำเสนออีกครั้งโปรดติดตามอย่ากระพริบตา
         หนังสือก้าวแรกดวงจีน  ออกวางจำหน่ายแล้วตามร้านหนังสือทั่วไป  เป็นหนังสือดวงจีนที่ดีที่สุดตั้งแต่ทำหนังสือเกี่ยวกับดวงจีนและฮวงจุ้ยมา  เป็นหนังสือที่สมบูรณ์ที่สุด  รู้ทั้งระบบ  จบในเล่ม  เรียนรู้ด้วยตัวเอง  ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ภาษาจีนมาก่อน  เรียนได้ทุกคน  มีตัวอย่างประกอบทุกขั้นตอน เรียนง่าย  ทายแม่น 
และสำหรับท่านที่ต้องการจะเรียนดวงจีน.กับอาจารย์เทียนเต็ก  ซินแส  ติดต่อสมัครเรียนได้ที่วัดแดงประชาราษฏร์  โทร.02-447-3593  เรียนฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดฯทั้ง

โหรอาหรับทำนายดวงทักษิณฯ


โหรอาหรับทำนายดวงทักษิณฯ
 พล...สุชาติ เผือกสกนธ์

         พ...ทักษิณฯ เกิดเมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๔๙๒ เวลา ๑๒ นาฬิกา ๒๐ นาที ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลู ลัคนาสถิตราศีตุลย์ ๗ องศา ๓๑ ลิปดา (หมอดูบางคนบอกว่า อยู่ปลายราศีกันย์ เนื่องมาจาก ไม่ทราบเวลาเกิดที่แน่นอนของเจ้าชะตาดวงชะตานี้มีจุดเด่นที่สำคัญมากกล่าวคือ มีดาวพระเคราะห์ต่างๆ รวมทั้งดวงอาทิตย์ จำนวน ๘ ดวง เรียงกัน เริ่มตั้งแต่ราศีมิถุนซึ่งเป็นเรือนที่ ๙ ไปจนถึงราศีสิงห์ซึ่งเป็นเรือนที่ ๑๑ ซึ่งตำราโหราศาสตร์ภารตะชื่อ คัมภีร์ปาริชาติชาดก” ที่พันเอก ประจวบ วัชรปาน (ถึงแก่กรรมแล้วได้แปลมาจากต้นฉบับภาษาสันสกฤต และเรียบเรียงไว้ ได้กล่าวไว้ใน มาลิกาโยค”(มาลิกา หมายความว่า การนำเอาดอกไม้ต่างๆ มาร้อยเรียงกันเป็นพวงมาลา โศลกที่ ๑๓๙ ว่า ถ้ามาลิกาโยคเริ่มต้นจากภพที่ ๙ ของลัคนา เจ้าชะตาจะมีคุณสมบัติดีวิเศษต่างๆ หลายประการ เป็นที่นิยมในศาสนากิจ และมีอำนาจเข้มแข็ง
         นอกจากนี้ ดาวพฤหัสบดียังสถิตอยู่ในราศีมังกร เรือนที่ ๔ ของดวงชะตา จัดเป็นปทุมเกณฑ์ ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มพลังให้แก่มาลิกาโยค แต่เนื่องจาก จุดที่ตั้งของดาวพฤหัสบดีในราศีนี้ วิชาการโหราศาสตร์ทั่วไปถือว่า เป็นนิจ ทั้งยังโคจรวิกลคติถอยหลัง (พักร)อีกด้วย จึงน่าจะเป็นเหตุให้พลังอำนาจของมาลิกาโยคมิให้คุณแก่เจ้าชะตาอย่างเต็มที่
         ที่น่าสนใจอีกประเด็นหนึ่งก็คือ จุดที่ตั้งของดวงอาทิตย์กับดาวพุธอยู่ในราศีเดียวกันคือ ราศีกรกฎ เป็นเรือนที่ ๑๐ ของดวง ซึ่งเป็นภพเกี่ยวกับหน้าที่การงาน ทำมุมห่างกันเพียง ๔๖ ลิปดา (ไม่ถึง ๑ องศาจึงถือได้ว่า ดาวพุธเข้าสู่จุดดับ (Combustion) อยู่ในสภาวะที่สิ้นกำลังเนื่องจากถูกพลังของแสงจากดวงอาทิตย์ซึ่งเหนือว่ามากมายมหาศาลปิดบังข่มเอาไว้จนหมดสิ้น ดาวพุธ มีความหมายถึง การติดต่อสื่อสาร ความเฉลียวฉลาด มีปัญญาเปรื่องปราชญ์รอบรู้ในวิชาการแขนงต่างๆ โดยเฉพาะวิชาการสื่อสารอย่างกว้างขวาง และเมื่อดาวพุธสถิตอยู่ร่วมในมาลิกาโยค เจ้าชะตาจึงมีความรู้ในระดับสูงถึงปริญญาเอก มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดสามารถจัดการบริหารองค์กรที่ตนรับผิดชอบตั้งแต่ระดับบริษัทขึ้นไปจนถึงประเทศชาติในฐานะนายกรัฐมนตรี แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ดาวพุธดับ จึงส่งผลให้เจ้าชะตาใช้ปัญญาที่มีอยู่ไปในทางลบ นอกจากนี้ ดาวพุธ ยังหมายถึงการวาจา ประกอบกับดาวพฤหัสบดีซึ่งทำมุมเล็งกับดวงอาทิตย์ และดาวพุธยังไม่ให้คุณแก่เจ้าชะตาเนื่องจากสถิตอยู่ในราศีนิจและโคจรวิกลคติดังกล่าวแล้วข้างต้นอีกด้วย เจ้าชะตาจึงไม่มีสัมมาสติ และสัมมาวาจา มักขาดสติในใช้วาจาอยู่บ่อยครั้ง เป็นที่ประจักษ์กันอยู่ทั่วไปแล้ว นอกจากนี้ ดาวพฤหัสบดียังมีความหมายถึงกัลยาณมิตร คือ ครูบาอาจารย์ ปูชนียบุคคล ที่ปรึกษาของเจ้าชะตา จึงเป็นเหตุปัจจัยให้เจ้าชะตาได้พบกับครูบาอาจารย์ ที่ปรึกษาที่ชี้นำแก่เจ้าชะตาให้เข้ารกเข้าพงอยู่เป็นประจำ
         อนึ่ง ดาวเน็ปจูนซึ่งสถิตในราศีตุลย์ เรือนที่ ๑๒ ภพวินาส ยังทำมุมเล็งกับราหูซึ่งสถิตอยู่ในราศีเมษ เรือนที่ ๖ ภพอริ ของเจ้าชะตา ดาวเน็ปจูนมีความหมายถึง ความฝัน จินตนาการ ราหูเป็นเจ้าการให้เกิดกิเลส ตัณหา มีโลภะ โทสะ โมหะ มาครอบงำจิตใจทำให้เกิดมิจฉาทิฏฐิ ราหูยังเป็นเสมือนภาพลวงตา จึงน่าจะพยากรณ์ว่า เจ้าชะตาเป็นนักค้าความฝันที่ดีคนหนึ่ง
       ภาพประกอบที่ ๑ เป็นภพดวงชะตาของ พ...ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งผมได้ใช้ดวงชะตาแบบสากลซึ่งแสดงได้ทั้งราศีจักร ภวจักร แสดงราศี องศา ลิปดาของลัคนา ดวงอาทิตย์ และดาวพระเคราะห์ต่างๆ รวมทั้งราหู และเกตุ (เกตุสากลไว้อย่างชัดเจนโดยครบถ้วน
       ผมได้ตั้งใจจะใช้วิธีการพยากรณ์ตามหลักวิชาโหราศาสตร์แบบก้าวหน้าดังเช่นที่เคยปฏิบัติ แต่บังเอิญได้ไปค้นพบตำราโหราศาสตร์อาหรับ ซึ่งมีวิธีการพยากรณ์แตกต่างไปจากวิธีที่โหร และหมอดูในเมืองไทยโดยสิ้นเชิง เขาใช้วิธีการนำเอาราศี องศา ลิปดาของลัคนา ดวงอาทิตย์ และดาวพระเคราะห์ต่างๆ รวมราหู และเกตุ มาบวกลบกันตามสูตรของเขา แล้วจึงพยากรณ์จุดดี จุดเด่น จุดเสื่อม จุดดับของเจ้าชะตา
      เมื่อได้นำดวงชะตาของ พ...ทักษิณฯ มาคำนวณตามตำราโหราศาสตร์อาหรับดังกล่าว ปรากฏผลดังที่แสดงไว้ในภาพประกอบที่ ๒ ซึ่งผมขอยกมาเป็นตัวอย่างเพียง ๔ ประเด็น เป็นจุดเด่น ๒ และ จุดดับ ๒ (ผมได้ขีดเส้นใต้ไว้ในภาพประกอบที่ ๒ แล้วได้แก่
      จุดเด่นที่ ๑ อยู่ในราศีสิงห์ ๑๑ องศา ๔๓ ลิปดา หมายถึง เป็นผู้ที่มีสติปัญญา มีเชาวน์ไหวพริบดี (Intelligence) อยู่ในเรือนที่ ๑๑ ภพเกี่ยวกับ ลาภ ผลประโยชน์ มีดาวศุกร์ และดาวเสาร์ สถิตร่วมอยู่ด้วย
      จุดเด่นที่ ๒ อยู่ในราศีพิจิก ๗ องศา ๔๓ ลิปดา หมายถึง เป็นปัญญาชน พวกทำงานด้วยสมอง (Intellectuality) อยู่ในเรือน ๒ ภพเกี่ยวกับทรัพย์สินเงินทอง ความมั่งคั่งร่ำรวยของเจ้าชะตา
      เมื่อนำเอาจุดเด่นทั้งสองข้อมาประมวลรวมกันแล้ว น่าจะพยากรณ์ว่า เจ้าชะตาจะมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีปฏิภาณไหวพริบสามารถหาผลประโยชน์ใส่ตนได้ในรูปแบบต่างๆ
ซึ่งส่งผลให้เกิดความมั่งคั่งร่ำรวยอย่างมหาศาล
      จุดดับที่ ๑ อยู่ในราศีกันย์ ๗ องศา ๒๐ ลิปดา หมายถึง ความหายนะอย่างใหญ่หลวง (Catastrophe) อยู่ในเรือนที่ ๑๒ ภพวินาสของเจ้าชะตา
      จุดดับที่ ๒ อยู่ในราศีตุลย์ ๗ องศา ๓๑ ลิปดา หมายถึง การถูกจับกุม (Captive) อยู่ในเรือนที่ ๑ (ลัคนาของเจ้าชะตา
      เมื่อได้ตรวจสอบดูการโคจรของดาวอังคารซึ่งถือว่า เป็นบาปเคราะห์สำคัญที่จะส่งผลเป็นทุกข์โทษแก่เจ้าชะตาได้พบว่า ดาวอังคารจะโคจรถึงจุดดับที่ ๑ ในวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๑ และจะโคจรถึงจุดดับที่ ๒ ในวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๑ ดังนั้น จึงน่าจะพยากรณ์ว่า จุดจบของ พ...ทักษิณฯ จะอยู่ในช่วงเวลาที่กล่าวแล้วนี้
       อนึ่ง ผมยังได้อ่านพบในหนังสือ “VASHAPHAL OR THE HINDU PROGRESSED HOROSCOPE” ที่ท่าน B.V.Ramanโหราจารย์สำคัญคนหนึ่งของอินเดียได้กล่าวถึงวิธีการพยากรณ์ในลักษณะที่คล้ายคลึงกับวิชาโหราศาสตร์อาหรับไว้เหมือนกันมีชื่อเรียกว่า Sahams แต่ท่าน B.V Raman ได้กล่าวไว้ว่า การพยากรณ์ตามวิธีการนี้ดูจะไม่ได้ผลในทางปฏิบัติเท่าใดนัก จึงไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายกัน
      ในเรื่องที่เกี่ยวกับสติปัญญา การคำนวณตามวิธีการพยากรณ์แบบ Sahams นำเอา ราศี องศา ลิปดา ของ ดาวจันทร์+ดวงอาทิตย์-ลัคนา และไม่นำเอาดาวมฤตยู เน็ปจูน พลูโต ราหู และเกตุ มาคิดคำนวณด้วย แต่ตามวิธีการของโหราศาสตร์อาหรับ นำเอา ราศี องศา ลิปดา ของดาวศุกร์+ดาวจันทร์-ดวงอาทิตย์ หรือ ลัคนา+ดวงอาทิตย์-ดาวมฤตยู การพยากรณ์ตามวิธีการทั้งสองจึงแตกต่างกัน
      การพยากรณ์ตามหลักวิชาโหราศาสตร์อาหรับนี้ ผมได้เคยนำมาทดลองพยากรณ์ดวงชะตาของผู้ที่คุ้นเคยกันหลายรายแล้ว ปรากฏว่า มีความแม่นยำในระดับหนึ่ง จึงได้นำมาทดลองพยากรณ์ดวงชะตาของ พ...ทักษิณฯ ดู ผลการพยากรณ์จะเป็นอย่างไรนั้น คงจะต้องติดตามหาผลกันในโอกาสต่อไป หวังว่า พ...ทักษิณฯ เจ้าของดวงชะตา ที่ผมเคยมีความคุ้นเคยกันมาแต่ก่อน (วันเดือนปี และเวลาเกิดที่นำมาใช้ในการผูกดวง ผมก็ได้รับมาจาก พ...ทักษิณฯ โดยตรงจะเข้าใจในเจตนารมย์ของผมในการเขียนบทความเรื่องนี้ว่า มิได้มีความตั้งใจที่เยาะเย้ยเหยียบหยามซ้ำเติมท่านแต่อย่างใด ผมได้เขียนขึ้นเพื่อเป็นกรณีศึกษาทางวิชาการโหราศาสตร์ดวงดาว เพื่อประโยขน์แก่ผู้ที่สนใจในวิชาการแขนงนี้ทั้งในปัจจุบัน และอนาคตเท่านั้น

เสกโลโซ



คลิป: อ้อม รับแต่งฝรั่ง ปัดกิ๊ก เสก โลโซ







 

[22 ธันวาคม] อ้อม ปัดแฟน เสก แค่ผู้จัดการ - สามีฝรั่งโผล่จ่อฟ้อง



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3Youtube.com โพสต์โดย CiNNtv1

          ชายต่างชาติ อ้างตัวเป็น สามี อ้อม สาวคนใหม่ของ เสก โลโซ จ่อฟ้องเรียกค่าเสียหาย โดนหลอกให้แต่งงานเอาเงิน – ด้านสาวอ้อม ปัด เป็นเพียงผู้จัดการส่วนตัวของนักร้องหนุ่มเท่านั้น

          ดูท่าจะเป็นมหากาพย์เรื่องยาวซะแล้ว สำหรับกรณีอื้อฉาวของร็อกเกอร์ชื่อดัง เสก โลโซ หรือ เสกสรร ศุขพิมาย ที่มีประเด็นข่าวอื้อฉาวเข้ามาไม่ขาดสาย ทั้งเรื่องเสพยา ทั้งเรื่องมีปัญหากับต้นสังกัดแกรมมี่ รวมถึงมีประเด็นผู้หญิงคนใหม่ ซึ่งเสก เพิ่งแถลงข่าวไม่นานว่า ผู้หญิงคนใหม่ของเขาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น อ้อม-พรพิมล  เทพพิชัย ผู้จัดการสาวของเขาเอง

          แต่ล่าสุด ดูท่าเรื่องจะไม่จบง่าย ๆ เนื่องจาก นายเบรนดอน จอห์น ฮูกกี้ ชาวออสเตรเลีย ได้ออกมาอ้างตัวว่า เป็นสามีตัวจริงของ อ้อม-พรพิมล  เทพพิชัย และถูกหลอกแต่งงานเอาเงิน ซึ่งขณะนี้เตรียมฟ้องร้องฝ่ายหญิงแล้ว

          โดย ฮูกกี้ เผยว่า ตนได้แต่งงานกับ อ้อม เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 ที่ผ่านมา โดยตนรู้จักอ้อมครั้งแรก เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2553 จากเว็บไซต์หาคู่ ThaiLovellinks จากนั้นก็พูดคุยกัน เป็นระยะกว่า 1 เดือน จึงตัดสินใจบินมาหาอ้อมที่เกาะสมุย ซึ่งขณะนั้นทำงานเป็นผู้ช่วยร้านอาหารแห่งหนึ่งในเกาะสมุย

          หลังจากนั้นไม่นานตนได้ตัดสินใจแต่งงานกันกับอ้อมในวันที่ 12 พฤษภาคม 2554 ตนได้มอบค่าสินสอด ซึ่งเป็นเงินจำนวน 300,000 บาท ทองคำหนัก 7 บาท พร้อมแหวนเพชรให้กับอ้อม แต่หลังจากแต่งงาน ตนได้กลับประเทศออสเตรเลีย และติดต่อกับฝ่ายหญิงได้ยากลำบากมาก โดยอ้อมมักจะอ้างเรื่องงานเสมอ  ระหว่างนั้นตน ได้โอนเงินให้อ้อมอีกหลายครั้งเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ  รวมเป็นเงินกว่า 240,000 บาท

          จน กระทั่งในวันที่ 2 ตุลาคม 2554 ตนได้พบว่า อ้อมได้โพสต์รูปของเธอกับเสก บนเฟซบุ๊กของเธอ และวันที่ 26 ตุลาคม อ้อมส่งข้อความมาหาตน และบอกกับตนว่า เธอกำลังจะมีลูกกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง และเธอก็ไม่ได้รักตนแล้ว อย่างไรก็ตาม ในเดือนธันวาคมนี้เอง อ้อมบอกกับตนว่า เธอได้เลิกกับเสกแล้ว และพ่อของเด็กในท้องของเธอคือ คุณศักดา ธนรันดร์ จากเกาะสมุย ซึ่งเป็นแฟนเก่าของอ้อมก่อนแต่งงานกับผม

          นายฮูกกี้ กล่าวต่อว่า ตนกำลังตัดสินใจว่า จะใช้ขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายกับอ้อมหรือไม่ เพราะหากความรักที่เกิดขึ้นมาเป็นเพียงการหลอกลวง ตนก็อยากจะได้เงินที่ตนต้องเสียไปทั้งหมดคืน

          อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีที่เสกออกมาประกาศว่า อ้อมเป็นแฟนใหม่นั้น เจ้าตัวกลับออกมาปฏิเสธทันควันว่า ตน นั้นไม่ใช่ผู้หญิงคนใหม่ของเสก โดยบอกแต่เพียงว่า ตนเป็นเพียงผู้จัดการส่วนตัวของนักร้องหนุ่มเท่านั้น ส่วนในอนาคตจะเปลี่ยนสถานะเป็นเช่นไรนั้นค่อยว่าอีกที

          เฮ้ออออ...เห็นแบบนี้แล้วดูท่าเรื่องจะไม่จบง่าย ๆ ซะด้วย ทั้ง เสก โลโซ และอ้อม สาวคนใหม่ ก็มีประเด็นฉาวทั้งคู่ งานนี้จะลงเอยอย่างไรก็คงต้องติดตามดูอีกทีล่ะค่ะ



คลิปข่าวสามีฝรั่งโผล่แฉอ้อม สาวคนใหม่ เสก โลโซ





[21 ธันวาคม] อ้อม พรพิมล แฟนคนล่าสุดของ เสก โลโซ



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

           หลังจากวันที่ เสก โลโซ ได้แถลงข่าวยอมรับว่าเสพยาจริง อีกทั้งมีปัญหาครอบครัวที่ยังแก้ไม่ตก ซึ่งในการแถลงข่าวนั้น เสก โลโซ พร่ำบอกว่ายังรัก "กานต์ วิภากร ศุขพิมาย" อดีตภรรยาเหมือนเดิม แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาที พอจบจากการแถลงข่าว เสก โลโซ กลับเปิดตัว อ้อม พรพิมล เทพพิชัย แฟนสาวคนใหม่อย่างหน้าตาเฉย โดยบอกว่า "เลขาฯ ผม น้องอ้อม ก็แฟนผมด้วย" พร้อมกับหอมแก้มโชว์สื่อซะอย่างนั้น!

           ทำให้ระยะเวลาเพียงชั่วข้ามคืน ชื่อของ อ้อม พรพิมล เทพพิชัย ก็กลายเป็นประเด็นทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ ที่ใคร ๆ ก็ต่างให้ความสนใจ อีกทั้งอยากจะรู้ว่า อ้อม พรพิมล คือใคร และเป็นตัวจริงของ เสก โลโซ จริงหรือไม่ เพราะฉะนั้น วันนี้เราเลยจะพาไปทำความรู้จักกับ อ้อม พรพิมล เทพพิชัย กัน

           อ้อม พรพิมล ผู้จัดการส่วนตัวของ เสก โลโซ ซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อนี้กันมาบ้าง เพราะเธอเคยตกเป็นคู่กรณีที่มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งอยู่กับ กานต์ วิภากร ในเรื่องการอาศัยเข้าไปอยู่ในบ้าน แถมอดีตภรรยาของเสกยังบอกกับสื่อตลอดเวลาว่า สาวอ้อมคนนี้นี่แหละที่เป็นภรรยาของเสกอีกคน

           โดย อ้อม พรพิมล เริ่มเข้ามาทำงานกับเสกได้ประมาณ 2 เดือน ซึ่งก่อนหน้านี้เธอทำงานเป็นหัวหน้าห้องอาหารในโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่พอดีเสกได้มารับประทานอาหารกับเพื่อนที่โรงแรมดังกล่าว และเห็นว่าเธอทำงานเกี่ยวกับด้านการจัดการ เลยติดต่อให้เธอมาทำงานด้วย ประกอบกับที่สาวอ้อมรู้จักกับน้องชายและน้องสาวของเสก ทำให้เธอตัดสินใจเข้ามาช่วยดูงานในด้านต่าง ๆ ให้หนุ่มเสก

           นอกจากนี้ อ้อม พรพิมล ยังได้เผยความรู้สึกที่มีต่อ เสก โลโซ ด้วยว่าเป็นคนดีมาก เป็นคนจริงใจ มีความรับผิดชอบ และรักลูกเมียมาก ซึ่งถ้าใครรู้จักก็จะรู้ว่าเขารักมากจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เสกอยู่ตรงนั้นเขามีผู้หญิงรายล้อมเยอะแยะ แต่เขาก็ไม่กิ๊กอะไรกัน

           สำหรับความสัมพันธ์ของ อ้อม พรพิมล กับ เสก โลโซ ที่หลาย ๆ คนสงสัยนั้น สาวอ้อมได้ออกมาเปิดใจ โดยประกาศชัดเจนว่า เธอไม่ใช่กิ๊ก ไม่ใช่ภรรยาของเสกแต่อย่างใด โดยยังกั๊กถึงความสัมพันธ์ในอนาคต บอกเพียงแต่เป็นเรื่องของอนาคตที่ต้องรอดูต่อไป อีกทั้งตัวเธอไม่แคร์ถึงอดีตที่ผ่านมาของนักร้องดัง พร้อมกับให้เหตุผลว่าหากคนเราถ้ามัวแต่มองอดีตก็จะคบกันไม่ได้

            และนี่คือ "อ้อม พรพิมล เทพพิชัย" สาวที่หนุ่ม เสก โลโซ ประกาศก้องว่าเป็นแฟนอีกคนหนึ่งของเขา



เสกโลโซ




อ้อม พรพิมล ปัดข่าวหลอกสามีฝรั่งแต่งงาน

อ้อม พรพิมล ปัดข่าวหลอกสามีฝรั่งแต่งงาน

อ้อม พรพิมล ปัดข่าวหลอกสามีฝรั่งแต่งงาน

 
[23 ธันวาคม] อ้อม ปัดหลอกสามีฝรั่งแต่งงาน เตรียมตั้งทนายสู้เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ เรื่องเล่าเช้านี้, Youtube.com โพสต์โดย CiNNtv1

         อ้อม ปัดข่าวหลอกสามีฝรั่งแต่งงาน เตรียมตั้งทนายสู้ ยันชัดไม่ใช่กิ๊กเสก โลโซ เป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมงานเท่านั้น 

         กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ส่งท้ายปีจริง ๆ สำหรับเรื่องราวฉาวโฉ่ของ "เสก โลโซ" หรือ เสกสรร ศุขพิมาย ไม่ว่าจะเป็นการแฉของอดีตภรรยา "กานต์ วิภากร" ที่ปล่อยภาพถ่ายขณะที่ เสก โลโซ เสพยา หรือออกมาโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กถึงเรื่องราวปัญหาครอบครัว และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในหลาย ๆ ด้านของนักร้องดัง โดยงานนี้มีชื่อสาว ๆ มาเอี่ยวถึง 2 คน ทั้ง "ป่าน ปรางค์ฉัตร" นางแบบสาวที่ เสก โลโซ อ้างว่าเป็นภรรยาอีกคนของเขา 

         ส่วนสาวอีกคนคือ "อ้อม พรพิมล" ผู้จัดการสาว และควบตำแหน่งกิ๊กคนล่าสุดของเสก โลโซ!! แต่แล้ว เสก โลโซ เป็นอันต้องหน้าแตกยับ เมื่อสาวอ้อม ออกมาปฏิเสธบอกว่าไม่ใช่กิ๊ก ไม่ใช่ภรรยา เป็นเพียงคนที่ทำงานร่วมกันเฉย ๆ อีกทั้งยังเคยแต่งงานกับฝรั่งชาวออสเตรเลียแล้วด้วย แต่ดูเหมือนเรื่องราวจะอลหม่านเข้าไปใหญ่ เพราะสามีของสาวอ้อมนามว่า ''เบรนดัน จอห์น ฮู๊กกี้'' ได้ออกมาแฉว่า ถูกสาวอ้อมหลอกให้แต่งงานแล้วเชิดเงินสินสอดไป ....

         ล่าสุดวานนี้ (22 ธันวาคม) ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ อ้อม พรพิมล เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยเจ้าตัวได้เล่าเรื่องราวให้ฟังว่า เริ่มแรกเลยตนได้ปรึกษาเพื่อนว่าอยากจะไปทำงานที่ออสเตรเลีย เพื่อนก็เลยแนะนำให้รู้จักกับเบรนดันทางเอ็มเอสเอ็น ตนคุยกับเขาได้สักพัก ประมาณเดือนหนึ่งเขาก็บอกกับตนว่าจะมาประชุมที่สมุย ซึ่งตอนนั้นตนทำงานอยู่ที่นั่นพอดีเลยนัดเจอกัน จากนั้นตนก็คุยถึงเรื่องที่ตนอยากจะไปทำงานที่ออสเตรเลีย ส่วนเขาก็ปรึกษาตนเรื่องการเปิดธุรกิจ และติดต่อซื้อที่ดินที่เมืองไทย ตนก็คุยกับเขามาเรื่อย ๆ จนคุยถึงเรื่องแต่งงาน เพราะตนอยากทำงานที่นู่นอยู่แล้ว อีกทั้งคุยกับคุณพ่อคุณแม่เขาก็ไม่ซีเรียสอะไร ตนก็เลยตกลงแต่งงานกัน แต่ทั้งนี้คุณแม่ตนบอกว่าถ้าแต่งงานขอสินสอด 2 แสนบาท ทอง 6 บาท ซึ่งเขาก็ตอบตกลงโดยไม่คิดอะไรเลย

         อ้อม พรพิมล กล่าวต่อว่า ถ้าถามว่าตนรู้จักกับเขาลึกซึ้งไหม ตนขอบอกว่าไม่เลย รู้จักกันแค่ผิวเผินเท่านั้น ตนมีเวลาจัดงานแต่งแค่เพียง 2  อาทิตย์ และพอแต่งงานกันแล้ว 1 อาทิตย์เขาก็กลับกรุงเทพฯ และจากนั้นอีก 1 อาทิตย์เขาก็บินกลับไปออสเตรเลีย ซึ่งตนกับเบรนดันไม่ได้อยู่กินกันอย่างสามีภรรยา ทั้งนี้ตั้งแต่เขาแต่งงานมา เขาเคยให้เงินตนแค่ 7 หมื่นบาท เพื่อไปทำพาสปอร์ตไปออสเตรเลีย จากนั้นไม่นานเขาก็มาขอหย่า และไม่ได้เรียกสินสอดอะไรคืน นอกจากแหวนแค่วงเดียว อย่างไรก็ตามที่ตนไม่เข้าใจคือ ทำไมมันเพิ่งเป็นข่าวตอนนี้ ทั้ง ๆ ที่เรื่องนี้มันจบลงไปนานแล้ว 

         ทางผู้สื่อข่าวถามต่อว่า สรุปว่าการแต่งงานทั้งหมดนั้น เป็นเพียงแต่การแต่งงานเพื่อธุรกิจใช่หรือไม่ สาวอ้อมตอบทันทีว่า ใช่ แต่ตนงงข่าวที่บอกว่า ตนแต่งงานเพื่อหลอกเขา คือเขาอายุ 41 แล้ว คงไม่ยอมให้ตนไปหลอกเขาง่าย ๆ แน่นอน แล้วที่จู่ ๆ เขาออกมาบอกว่า ตนตั้งท้องกับพี่เสกนั้น คือตนยืนยันได้เลยว่าไม่ใช่ แต่เขาก็ไม่เชื่อ ซึ่งตนก็พร้อมที่จะให้แพทย์ตรวจร่างกายยืนยันว่า ตนไม่เคยท้อง และไม่ได้ท้องกับพี่เสก ซึ่งถ้าตนตรวจแล้วผลออกมาว่า ตนไม่ได้ท้อง ตนก็จะฟ้องกลับแน่นอน และตนก็ได้เตรียมทนายไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมหลักฐานครบถ้วน

         อย่างไรก็ตาม สาวอ้อม พรพิมล กล่าวยืนยันถึงความสัมพันธ์กับ เสก โลโซ ด้วยว่า เป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมงานกันเฉย ๆ ไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวแต่อย่างใด 

         ส่วนทางด้าน นายกริช ทอมมัส รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโสสายงานธุรกิจเพลง บริษัท จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า ปัญหาระหว่างต้นสังกัดกับ เสก โลโซ นั้น จบลงไปแล้ว สิ่งที่พวกเราทำได้ตอนนี้ก็คือการให้กำลังใจ เพื่อให้เขาเข้าไปบำบัดและรักษาอาการติดยาเสพติด ส่วนจะกลับมาทำงานร่วมงานกันได้อีกครั้งหรือไม่ คงต้องรอให้เขาบำบัดจนหายดีก่อน สำหรับเรื่องที่ เสก โลโซ กล่าวพาดพิงถึงต้นสังกัดในทางที่ไม่เหมาะสม ทางต้นสังกัดไม่เอาความ และพร้อมให้อภัย 

เสกโลโซ



อ้อม พรพิมล ปัดข่าวหลอกสามีฝรั่งแต่งงาน




          สามีชาวออสเตรเลีย ส่งทนายยื่นฟ้อง เสก-อ้อม เรียกค่าเสียหายร่วม 6 ล้าน ศาลนัดไกล่เกลี่ย 29 มีนาคมนี้

          ยังคงมีประเด็นให้ติดตามอย่างต่อเนื่อง สำหรับเรื่องราวของ เสก โลโซ หรือ เสกสรร ศุขพิมาย ทั้งเรื่องยาเสพติด ปัญหาหย่าร้าง อีกทั้งยังมี ปัญหาสาวอ้อมกิ๊กคนใหม่ ซึ่งจากกรณีเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ชายต่างชาติ อ้างตัวเป็น สามี อ้อม สาวคนใหม่ของ เสก โลโซ จ่อฟ้องเรียกค่าเสียหาย หลังโดนอ้อมหลอกให้แต่งงานเอาเงิน

          สำหรับความคืบหน้ากรณีดังกล่าว วานนี้ (25 มกราคม) ศิริพร  เด่นเกศินีล้ำ ทนายความของ เบรนดอน จอห์น ฮู๊กกี้ หนุ่มชาวออสเตรเลีย ที่เคยออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวโดยอ้างว่าเป็นสามีตัวจริงของ อ้อม พรพิมล เทพพิชัย ว่า ขณะนี้ทางเบรนดอนได้ยื่นฟ้องหย่าเพื่อเรียกค่าทดแทนกับทาง พรพิมล เทพพิชัย หรือ อ้อม จำเลยที่ 1 และ เสกสรร ศุขพิมาย จำเลยที่ 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยลูกความได้เรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 5,619,000 บาท 

          สำหรับนัดแรกที่ศาลจะนัดไกล่เกลี่ยคือวันที่ 29 มีนาคม 2555 เวลา 09.00 น. ที่ศาลมีนบุรี ก็ต้องรอดูทางนั้นว่ามีการเขียนคำให้การมาไหม จะมีการไกล่เกลี่ยกันไหม คงต้องว่ากันอีกที ซึ่งคุณเบรนดอนจะมาไกล่เกลี่ยด้วยตัวเอง

          นอกจากนี้ทนายความยังได้เผยว่า ขณะนี้ ลูกความ คือ นายแบรนดอน ไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองไทยแล้ว โดยเดินทางกลับออสเตรเลียไปตั้งแต่เมื่อช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา และจะกลับมาอีกครั้งในช่วงที่มีการนัดหมายของศาล 


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




[2 มกราคม] อ้อม ผจก. เสก โลโซ ยันไม่เคยฉกกระเป๋าของ กานต์
อ้อม  ผจก. เสก โลโซ  ยันไม่เคยฉกกระเป๋าของ  กานต์

อ้อม  ผจก. เสก โลโซ  ยันไม่เคยฉกกระเป๋าของ  กานต์
 
          อ้อม  ผจก. เสก โลโซ กล่าวปฏิเสธหยิบกระเป๋าหลุยส์ของ กานต์ วิภากร ไปใช้ เผยไม่ชอบหยิบของใคร
          ยังคงเป็นประเด็นให้พูดถึง สำหรับกรณีที่นักร้องชื่อดัง เสก โลโซ ที่วันนี้เจ้าตัวเข้ารับการบำบัด ที่สถาบันธัญญารักษ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม อย่างไรก็ตามล่าสุด นางสาวพรพิมล เทพพิชัย หรือ อ้อม ผู้จัดการส่วนตัว กล่าวว่า ขณะนี้อาการของนักร้องดังดีขึ้นแล้ว และคาดว่าแพทย์เจ้าของคนไข้จะให้ญาติเข้าเยี่ยมในเร็ว ๆ นี้  และเสก โลโซ ไม่มีอาการเครียดอย่างใด ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะใช้เวลาว่างในการแต่งเพลงเหมือนเดิม ส่วนคอนเสิร์ตของ เสก โลโซ ที่ก่อนหน้านี้รับงานไปแล้วนั้น ตอนนี้ก็ยกเลิกขอหยุดการแสดงทุกงาน และยังไม่รู้ว่าจะมีกำหนดการแสดงเมื่อไหร่ เนื่องจากยังไม่รู้ว่า เสก โลโซ จะรักษาตัวถึงเมื่อไหร่
          พร้อมกันนี้ อ้อม ยังได้กล่าวถึง กรณีที่ กานต์ วิภากร ศุขพิมาย อดีตภรรยา เสก โลโซ ออกมากล่าวว่า กระเป๋าหลุยส์ที่อยู่ในบ้านเสก หายไปว่า ตนไม่รู้เรื่องกระเป๋าดังกล่าว และยืนยันว่าไม่ใช่คนที่หยิบไปแน่นอน เนื่องจากไม่ชอบหยิบของคนอื่นไปใช้ และตนก็อยู่ในสายตาของ เสก โลโซ ตลอด
          ส่วนประเด็นที่มีหนุ่มออสเตรเลียออกมากล่าวอ้างว่า เป็นแฟนของ อ้อม นั้น เจ้าตัวกล่าวว่าจนถึง ณ ตอนนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อขอเคลียร์จากคนที่กล่าวอ้างว่าเป็นสามีแต่อย่างใด และตนก็ขอจบเรื่องนี้ไปแล้ว และได้ชี้แจงเรื่องนี้ไปแล้ว จึงขอไม่พูดอะไรอีกต่อไป

การก่อการร้าย


“การก่อการร้าย” ต่างจาก “การก่อความไม่สงบ” อย่างไร…?

Share
ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คน ก็ยังงง ๆ อยู่ว่า คำทั้งสองคำมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร…? เพราะในอดีต รัฐบาลเคยใช้คำว่า “ขบวนการโจรก่อการร้าย” หรือ “ขจก.” แทนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่อมาเปลี่ยนเป็น “โจรก่อการร้าย” (จกร.) และ “กลุ่มก่อความไม่สงบ” ในปัจจุบันตามลำดับ

สุรชาติ บำรุงสุข ได้อธิบายว่า การก่อเหตุรุนแรงของกลุ่มก่อความไม่สงบมักใช้วิธีการความรุนแรงที่แตกต่างกันออกไป มีการจัดตั้งองค์กร ประกอบด้วยกองกำลังติดอาวุธ อาวุธ ยุทธวิธีและมีเป้าหมายที่ชัดเจน โดยแบ่ง (การก่อเหตุรุนแรง) ออกได้เป็น 3 รูปแบบ ดังนี้
 
1. การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นรูปแบบของการสร้างความรุนแรงโดยตรงต่อผู้ที่มิใช่ทหาร หรือหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า/การเข้าปะทะโดยตรงกับกองกำลังตำรวจและทหาร แต่มุ่งใช้ความรุนแรงไปที่เป้าหมายสาธารณะและเป้าหมายทางเศรษฐกิจ หน่วยปฏิบัติการมีขนาดเล็กกว่าสงครามก่อความไม่สงบ การปฏิบัติการมักใช้วิธีการลอบสังหาร วางระเบิด ขว้างระเบิด ลอบวางเพลิง ใช้การทรมาน จี้เครื่องบิน และลักพาตัว บางครั้งใช้รูปแบบปฏิบัติการเพียงเพื่อสร้างผลสะเทือนทางการเมือง ปฏิบัติการเหล่านี้มักดำเนินการโดยกลุ่มที่ต้องการปกครองตนเอง และกลุ่มที่ไม่ใช่รัฐ (Non – State actors)
ส่วน การก่อการร้ายก่อความไม่สงบ (Insurgency Terrorism) นั้น มีจุดมุ่งหมายในการสร้างความรุนแรงเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและการโค่นล้มรัฐบาล พร้อมทั้งสร้างความหวาดกลัวให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ และผู้ที่ให้การสนับสนุนทั้งภายในและภายนอกประเทศ ทั้งนี้การก่อการร้ายได้ถูกปรับให้สอดคล้องกับการปฏิบัติการของแต่ละกลุ่ม
 
2. สงครามก่อความไม่สงบ (Insurgency Warfare) หลักการทำสงครามก่อความไม่สงบก็คือ การโจมตีโฉบฉวย (hit and run) ด้วยกองกำลังติดอาวุธเบาจนถึงขนาดกลาง เพื่อสร้างความหนักใจ และค่อย ๆ ทำลายเจตนารมณ์ และขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ความเคลื่อนไหวของฝ่ายก่อความไม่สงบจะต้องมีประสิทธิภาพสูงสุดในด้านความชำนาญภูมิประเทศ ความยืดหยุ่น พลิกแพลง ความรวดเร็ว และการหลอกล่อในการปฏิบัติการ
“เหมาเจ๋อตุง” ได้ให้ข้อสรุปของการทำสงครามก่อความไม่สงบไว้ว่า “ยุทธศาสตร์สูงสุดของฝ่ายก่อความไม่สงบอยู่บนพื้นฐานของความตื่นตัว เคลื่อนที่เร็วในการเข้าโจมตี แต่จะต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์ของฝ่ายศัตรู ภูมิประเทศ การสื่อสารโทรคมนาคม กำลังสนับสนุน สภาพอากาศ และประชาชน”
ทั้งนี้ สงครามก่อความไม่สงบ “แตกต่าง” จากการก่อการร้าย ในแง่ของการเน้นเป้าหมายขั้นต้น กล่าวคือ สงครามก่อความไม่สงบ “เน้น” การโจมตีกองกำลังติดอาวุธของฝ่ายรัฐบาล ตำรวจ ทหาร หน่วยสนับสนุน รวมถึงเป้าหมายทางเศรษฐกิจ ในขณะที่การก่อการร้าย “เน้น” เป้าหมายที่เป็นสาธารณะ ขณะที่การประกอบกำลังของสงครามก่อความไม่สงบมีขนาดใหญ่กว่าการก่อการร้าย มีการส่งกำลังบำรุง และมีฐานที่่มั่นชัดเจน โดยพื้นที่เคลื่อนไหวส่วนใหญ่อยู่ในชนบท ส่วนประเด็นที่สงครามก่อความไม่สงบและการก่อการร้าย “เหมือนกัน” ก็คือ การใช้จุดอ่อนของฝ่ายรัฐที่ไม่สามารถนำทรัพยากรที่พอเหมาะมาใช้แก้ปัญหาในจุดขัดแย้งได้
นอกจากนี้ ปัจจัยที่ชี้ขาดความสำเร็จของสงครามก่อความไม่สงบ ยังขึ้นอยู่กับการเชื่อมโยงสงครามก่อความไม่สงบเข้ากับการสร้างความรุนแรง หรือการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปสู่สงครามตามแบบ
 
3. การใช้กำลังตามแบบ หรือ สงครามตามแบบ (Conventional Warfare) เป็นการเผชิญหน้ากันโดยตรงของกำลังขนาดใหญ่ในสนามรบ ซึ่งการก่อความไม่สงบส่วนใหญ่มักไม่ใช้สงครามตามแบบ เนื่องจากให้ความสำคัญกับการเคลื่อนที่เร็วมากกว่า จึงใช้หน่วยขนาดเล็ก (small unit) ในการปฏิบัติการ ทั้งนี้การทำสงครามตามแบบของกลุ่มก่อความไม่สงบขึ้นอยู่กับยุทธศาสตร์ของกลุ่มและการตัดสินใจเกี่ยวกับสมรรถนะในการทำลายกองกำลังติดอาวุธฝ่ายรัฐบาลที่ใช้การรบตามแบบ
บางยุคสมัย “การก่อความไม่สงบ” ก็กลายเป็น “แนวคิด” หรือ “เป้าหมาย” โดยใช้ “การก่อการร้าย” เป็นยุทธศาสตร์หรือยุทธวิธีของ “การปฏิบัติ” เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการก่อความไม่สงบทางการเมือง การศาสนา เศรษฐกิจ และสังคม
“การก่อการร้าย” ยังเป็นคำที่ใช้ในทางลบและไม่ดีเสมอ และมีความหมายที่กว้างขึ้นตั้งแต่สหรัฐอเมริกามีการประกาศสงครามกับการก่อการร้ายจนครอบคลุมไปถึงทุก ๆ กิจกรรมที่ใช้ความรุนแรง นอกจากนี้ยังเป็นคำที่ใช้เฉพาะเพื่อเรียก “ฝ่ายตรงข้าม” เท่านั้น
น่าสังเกตว่า ไม่มีกลุ่มใดเรียกตัวเองว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย” เลย (บางกลุ่มลงมือกระทำการอันเป็นการก่อการร้ายสากลเสียด้วยซ้ำ กลับเรียกตัวเองว่า “ผู้ก่อการดี” ????)
 
ข้อเท็จจริง เหตุรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีทั้งรูปแบบ “การก่อความไม่สงบ” และ “การก่อการร้าย” เพราะมีการก่อเหตุรุนแรงต่อเป้าหมายทั้งทางทหารตำรวจซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ “อำนาจรัฐ” และเป้าหมายที่เป็นพลเรือน แต่เพราะเหตุผลทางการเมืองระหว่างประเทศ ทำให้รัฐบาลต้องกำหนดกรอบให้เหตุการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็น “การก่อความไม่สงบ” ซึ่งเป็นปัญหาภายในประเทศ
ฉะนั้น รูปแบบการก่อเหตุรุนแรงทั้งสองรูปแบบ ไม่ได้มีความแตกต่างกันในสาระสำคัญ ขึ้นอยู่กับเจตนารมณ์ของรัฐบาลผู้ปกครองนั่นเองที่จะเลือกใช้ถ้อยคำใดเรียกฝ่ายต่อต้าน เพราะในอดีต รัฐบาลเคยใช้คำว่า “ขบวนการโจรก่อการร้าย” หรือ “ขจก.” แทนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่อมาเปลี่ยนเป็น “โจรก่อการร้าย” (จกร.) และ “กลุ่มก่อความไม่สงบ” ในปัจจุบันตามลำดับ (กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเป็น “กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง”) ในปัจจุบัน

เเจ้งข่าว



Nokia C2-03
ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย
การโทร และ ฟังก์ชั่นพื้นฐาน
การใช้งานของแบตเตอรี่

ผู้ติดตาม